นายรุ่ง หิรัญวงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ พร้อมด้วย นายวิชัย ลดาลลิตสกุล รองประธานชมรมจักรยานอำเภอจอมทอง, นายแพทย์ศิริพงษ์ เหลืองวารินกุล กรรมการบริหารโรงพยาบาลรามคำแหง และนายสำโพธิ เทียนทอง ร่วมกันแถลงข่าวกิจกรรม “ปั่นสองน่องท่องอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ รณรงค์และป้องกันไฟป่า” (ปั่นพิชิตอินทนนท์ คนพันธุ์อึด #11) ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
นายรุ่ง หิรัญวงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดเผยว่า “กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มอบหมายให้อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ดำเนินงานตามโครงการปั่นสองน่องท่องอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เพื่อรณรงค์รับป้องกันไฟป่าประจำปี 2561 (ปั่นพิชิตอินทนนท์ คนพันธุ์อึด #11) โดยเห็นว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและนันทนาการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานรวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ ทั้งนี้ได้มีกำหนด จัดกิจกรรมดังกล่าวในวันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งจะมีพิธีปล่อยขบวนนักปั่นตั้งแต่เวลา 07.00 น. จากอำเภอจอมทองถึงยอดดอยอินทนนท์บนเส้นทางสาย 1009 จากหลักกิโลเมตรที่ 0 ถึง 48 โดยนักปั่นที่ทำเวลาน้อยที่สุดจะได้รับโล่เกียรติยศและเสื้อเจ้าภูเขา ณ เวทียอดดอยอินทนนท์ ทั้งนี้โดยมีสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการทั้งในด้านรับสมัครนักปั่นและกำหนดเงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆให้นักปั่นได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อย”
สำหรับจำนวนนักปั่นจักรยานที่ได้ลงชื่อสมัครและลงทะเบียนไว้ล่วงหน้าประกอบด้วยนักปั่นชายและหญิงจำนวนทั้งสิ้น 7,500 ราย ซึ่งเพิ่มมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 2,500 ราย แสดงถึงว่าประชาชนมีความสนใจและให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานได้เป็นอย่างดี ซึ่งการที่กรมอุทยานแห่งชาติเปิดโอกาสให้ใช้พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เพื่อกิจกรรมปั่นจักรยานด้วยเหตุผลด้านการท่องเที่ยว และนันทนาการ นอกเหนือจากการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้วยแล้วจึงมีผลต่อการดึงดูดความสนใจให้นักปั่นมาลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมอย่างล้นหลามยิ่งกว่าปีก่อน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่าเส้นทางขึ้นสู่ดอยอินทนนท์นั้นค่อนข้างมีความลาดชันและประกอบด้วยทางที่คดเคี้ยวหลายจุดจึงส่งผลให้กรมอุทยานแห่งชาติ คำนึงถึงกรณีอุบัติเหตุรวมทั้งเหตุจากความเจ็บป่วยอย่างกระทันหันอันอาจเกิดขึ้นกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการร่วมกิจกรรม จึงได้ขอรับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลรามคำแหงในการจัดหน่วยแพทย์ฉุกเฉินขึ้นไปประจำตามจุดเสี่ยงรวม 3 จุด โดยโรงพยาบาลรามคำแหง ร่วมกับ โรงพยาบาลสินแพทย์และโรงพยาบาลเชียงใหม่รามได้ให้ความอนุเคราะห์ในการส่งคณะแพทย์และพยาบาลฉุกเฉินพร้อมทั้งรถพยาบาลที่ติดตั้งอุปกรณ์กู้ชีพรวม 3 คันขึ้นไปประจำและพร้อมรับมือไว้แล้วเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่าย
ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย iChiangMaiPR.com
หมวดหมู่: กิจกรรม, กีฬา, ท่องเที่ยว, สุขภาพ