เนื้องอกที่ต่อมหมวกไตทำ ผป.หญิงปวดในช่องท้องทนไม่ไหว!!! รพ.ลานนา ตรวจแน่ชัด แล้วรักษาด้วยเทคโนฯ ผ่าตัดส่องกล้อง

นอกจากตรวจพบเนื้องอกแล้ว ค่าฮอร์โมนก็ผิดปกติ!!

ด้วยวัยเพียง 30 ปี และรักษาสุขภาพด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ใครจะไปนึกว่าจะเกิดความผิดปกติขึ้นกับอวัยวะภายในร่างกายที่สามารถนำไปสู่อันตรายได้หลายกรณีดังที่ “คุณนิศารัตน์” เจอมาด้วยตัวเองเมื่อไม่นานมานี้ โดยเจ้าตัวได้ทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า

“…ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้รู้สึกถึงอาการผิดปกติใดๆ มากนัก ที่รู้สึกได้ในเบื้องต้นคือเจ็บกล้ามเนื้อข้าง ๆ ท้องด้านขวา ซึ่งแรก ๆ ไม่ได้เจ็บมาก จนวันหนึ่งได้ไปออกกำลังกายกลับมาแล้วเจ็บก็เลยนึกว่าเจ็บกล้ามเนื้อเพราะออกกำลังกาย แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่เจ็บธรรมดาจากด้านนอก มันมาจากภายในเหมือนมีเข็มมาแทง จะทำอะไรก็เจ็บไปหมด ในใจคิดว่าอาจเป็นไส้ติ่งจนทนไม่ไหวต้องไปที่โรงพยาบาลลานนา เพื่อให้คุณหมอตรวจหาความผิดปกติให้ได้ซึ่งหลังจากที่คุณหมอส่งไปรับการตรวจด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แล้วพบก้อนเนื้องอกอยู่ที่ต่อมหมวกไต…”

หลังจากนั้น “คุณนิศารัตน์” ก็ได้เข้ารับการตรวจเพิ่มเติมจาก “พญ.ไปรพิดา รามนัฏ…อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการด้านระบบต่อมไร้ท่อ” ประจำ “โรงพยาบาลลานนา” เพื่อวางแผนการรักษาร่วมกัน ซึ่งนอกจากคุณหมอจะสอบถามประวัติต่าง ๆ แล้วยังได้ส่งผู้ป่วยเข้ารับการเจาะเลือดไปตรวจค่าฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกายก็ได้พบว่าค่าของฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ จึงได้นัดให้มาพบแพทย์ทุก 3 เดือน 6 เดือนเพื่อติดตามตรวจเช็คว่าก้อนเนื้องอกมีขนาดโตขึ้นหรือไม่ และมีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด โดยได้สั่งยาให้ผู้ป่วยทานไปตลอดช่วงที่มาติดตามอาการ ซึ่ง “คุณหมอไปรพิดา” ได้อธิบายให้ความกระจ่างเกี่ยวกับหน้าที่ของ “ต่อมหมวกไต” ด้วยดังนี้

“…ต่อมหมวกไตเป็นอวัยวะสำคัญอย่างหนึ่ง ทำหน้าที่หลั่งฮอร์โมนหลายชนิด ทั้งฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความดันโลหิตและระดับโซเดียมในเลือด รวมถึงฮอร์โมนเพศด้วย เช่น ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol), ฮอร์โมนอัลดอสเตอโรน (Aldosterone), ฮอร์โมนอะดรีนาลีน (Adrenaline), ฮอร์โมนนอร์อะดรีนาลีน(Noradrenaline) เป็นต้น โดยที่การทำงานของต่อมหมวกไตจะถูกควบคุมโดยต่อมใต้สมองและบางส่วนของต่อมไร้ท่อ หากต่อมใต้สมองไม่สามารถควบคุมการผลิตฮอร์โมนของต่อมหมวกไตได้ หรือมีเนื้องอกเกิดขึ้นที่ต่อมหมวกไต ก็ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับต่อมหมวกไตได้…”

คำแนะนำจากคุณหมอผู้ร่วมดูแล…

ปัญหาสุขภาพอันเป็นผลจากการมี “ก้อนเนื้องอกที่ต่อมหมวกไต” ดังที่คุณหมอกล่าวมานี้จะส่งผลให้ “ค่าฮอร์โมนในร่างกาย” เปลี่ยนแปลงได้หลายอย่าง โดยเฉพาะในทางกายภาพเป็นต้นว่า…ความเครียดที่จะเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง…ทานอาหารมากขึ้น…ความดันโลหิตสูง…ปวดศีรษะ…เหงื่อออก…ใจสั่น… แต่ในเบื้องต้นที่คุณหมอยังไม่แนะนำให้ทำการรักษาโดยการผ่าตัดกำจัดก้อนเนื้องอกที่ต่อมหมวกไตออกในเบื้องต้นเนื่องจากตำแหน่งที่เกิดนั้นอยู่ภายในและมีขนาดเล็กเพียง 2-3 ซ.ม. ทำให้ “คุณหมอไปรพิดา” จึงควรต้องพิจารณาให้รอบด้านเพื่อมิให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยด้วยการติดตามเฝ้าดูอาการของก้อนเนื้อเจ้าปัญหานี้ไประยะหนึ่งก่อนพร้อมกับตรวจเช็คระดับฮอร์โมนอยู่เสมอว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่ แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องโชคดีของผู้ป่วยตรงที่ก้อนเนื้อนี้ไม่มีการเติบโตขึ้นและถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีที่อาจไม่เป็นเนื้อร้าย แต่หากขืนปล่อยไว้นานวันเข้าก็อาจส่งผลเสียต่อผู้ป่วยในอนาคต ทำให้ “คุณหมอไปรพิดา” เห็นว่า “การผ่าตัด” เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับกรณีนี้ ซึ่ง “คุณนิศารัตน์” มิได้ขัดข้องและได้เข้ารับการผ่าตัดในที่สุด…

ได้ประโยชน์ทั้ง “ศัลยแพทย์” และ “ผู้เข้ารับการผ่าตัด”

หลังจากนั้นผู้ป่วยรายนี้ก็ได้รับการส่งตัวไปเตรียมความพร้อมสำหรับการผ่าตัดที่ “ศูนย์ศัลยกรรมส่องกล้อง…โรงพยาบาลลานนา” ซึ่ง “นพ.ราชันย์พัทธ์ วรเวชานนท์…ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการส่องกล้อง” ประจำศูนย์ฯ รอรับช่วงอยู่ก่อนแล้ว โดยได้อ่านรายงานการตรวจวินิจฉัยและสรุปผลการติดตามดูแลที่ “คุณหมอไปรพิดา” ได้ส่งไปพร้อมกันก่อนที่จะสรุปความเห็นว่าสมควรรักษาผู้ป่วยด้วยการผ่าตัดก้อนเนื้อที่ต่อมหมวกไตนี้ออกไป เพื่อปรับให้ฮอร์โมนในร่างกายของ “คุณนิศารัตน์” ให้กลับมาทำงานได้อย่างปกติสมบูรณ์อีกครั้ง ทั้งนี้โดย “คุณหมอราชันย์พัทธ์” ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “เทคโนโลยีการผ่าตัดแบบส่องกล้อง” ซึ่งเป็นวิวัฒนาการก้าวหน้าในวงการแพทย์ที่ “โรงพยาบาลลานนา” ได้นำมาใช้ประโยชน์เพื่อบำบัดรักษาผู้ที่ต้องเผชิญกับภาวะอาการป่วย ด้วยโรคภัยนานาชนิด โดยระบุว่า

“…กรณีที่ตำแหน่งต้นตอของปัญหาเป็นตำแหน่งที่ยากจะเข้าถึง เช่น ต่อมหมวกไต ซึ่งเป็นอวัยวะขนาดเล็กอยู่ภายในช่องท้องนั้น การผ่าตัดโดยการส่องกล้องจะช่วยให้แพทย์สามารถเข้าถึงตำแหน่งที่ผ่าตัดได้ง่าย เนื่องจากอุปกรณ์กล้องนำทางได้รับการประดิษฐ์คิดค้นให้มีขนาดเล็ก ซึ่งจะส่งภาพภายในช่องท้องออกมาปรากฏที่จอรับภาพอย่างชัดเจน จึงช่วยให้ศัลยแพทย์เข้าถึงตำแหน่งที่ต้องการผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ โดยใช้เครื่องมือผ่าตัดพิเศษในการทำการผ่าตัด นำก้อนเนื้อที่ต่อมหมวกไตออกมาตรวจที่ห้องปฏิบัติการเพื่อดูว่าเป็นก้อนเนื้อร้ายหรือไม่…ทั้งนี้การผ่าตัดส่องกล้องจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญของศัลยแพทย์อย่างมาก โดยข้อดีของการผ่าตัดด้วยเทคนิคนี้คือผู้ป่วยเสียเลือดน้อย เพราะไม่ต้องเปิดแผลใหญ่ ซึ่งในเมื่อขนาดของแผลเล็กกว่าแผลผ่าตัดแบบดั้งเดิมก็จะช่วยให้ผู้ป่วยลดการบาดเจ็บหลังผ่าตัด และสามารถกลับบ้านได้ไวครับ…”

ทางด้าน “คุณนิศารัตน์” ซึ่งหลังจากเข้ารับการผ่าตัดกำจัดก้อนเนื้อที่ต่อมหมวกไตเป็นที่เรียบร้อยก็ได้เผยให้ทราบว่า

“…รู้สึกโล่งใจมากค่ะที่ได้ผ่าตัดรักษาต้นตอของปัญหาสุขภาพ โดยนอนพักรักษาในโรงพยาบาลลานนา 3 วันก็กลับบ้านได้แล้ว และคุณหมอได้นัดมาตรวจติดตามอาการเพื่อเช็คค่าของฮอร์โมนที่มีความผิดปกติก่อนหน้านี้ก็พบว่าร่างกายเริ่มมีการปรับฮอร์โมนให้กลับมาเหมือนเดิม อาการผิดปกติที่มีก็ค่อยๆ หายไปจนเป็นปกติแล้ว ที่ชอบใจอีกด้วยคือ ดิฉันไม่ต้องกังวลกับแผลเป็นที่เกิดขึ้นเพราะมีแผลเพียง 1-2 ซ.ม.แถมยังสามารถกลับไปทำงาน และใช้ชีวิตประจำวันได้หลังจากนั้นเพียง 2 อาทิตย์เท่านั้นค่ะ…ต้องขอขอบคุณพยาบาล และคุณหมอทุกท่านที่ได้ดูแลดิฉันตลอดเวลาที่เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลลานนาค่ะ…”

ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย iChiangMaiPR.com
หมวดหมู่: สุขภาพ
คำค้น: ,