สายกินห้ามพลาด !! ของเด็ดในตำนาน 100 ปี “ขาหมูแช่เย็น ตือคาตั่ง”

วันนี้ขอพาลัดเลาะเที่ยวกรุงเทพมหานคร พาไปชิมอาหารโบราณขึ้นชื่อ ที่ในยุคนี้น้อยคนนักจะรู้จัก ซึ่งมีมานานกว่า 100 ปี อย่าง “ขาหมูแช่เย็น ตือคาตั่ง” ร้านเด็ดในตำนาน ที่เปิดร้านสืบต่อกันมาตั้งแต่รุ่นอากงจนถึงปัจจุบัน ตามมาดูกันเลยว่า ขาหมูแช่เย็น จะเด็ดซักแค่ไหน และ กทม. จะมีสถานที่ กิน เที่ยว เช็คอินที่ไหนน่าสนใจกันอีกบ้าง
“ขาหมูแช่เย็น ตือคาตั่ง” เจ้าของร้านคนล่าสุด คือ คุณนิรมล สมั่นเรืองศักดิ์ (คุณกรุง) เล่าว่า ขาหมูแช่เย็น เป็นอาหารโบราณที่มีอายุเกิน 100 ปี เป็นวิธีการถนอมอาหารของคนสมัยก่อนซึ่งจะนิยมรับประทานกันในช่วงฤดูหนาว ซึ่งปัจจุบันหาทางได้ยากมาก ตนเป็นผู้สืบทอดสูตรและเปิดร้านขายเป็นรุ่นที่ 3 โดยขั้นตอนการทำจะนำขาหมูมาเคี่ยว 6 – 7 ชั่วโมง แล้วปล่อยให้เย็นจึงนำไปแช่เย็น เพื่อให้แข็งตัวโดยไม่มีการใส่ผงวุ้น แต่ที่เห็นลักษณะเหมือนวุ้นนั้นคือเจลาตินจากหนังหมูนั่นเอง รวมขั้นตอนและระยะเวลาการทำกว่า 12 ชั่วโมง กว่าจะออกมาเป็นเมนูขาหมูแช่เย็นที่พร้อมเสิร์ฟ โดยรับประทานคู่กับพริกน้ำส้ม และจิ๊กโฉ่ว โดยราคาขาหมูแช่เย็นเริ่มต้นที่ 200 บาท (1 ขัน)
หากต้องการซื้อกลับทานที่บ้านทางร้านจะมีการแพ็คถุงและใส่ถุงใส่น้ำแข็งอีกชั้น ห่อด้วยกระดาษสามารถรักษาความเย็นได้ 4 – 5 ชั่วโมง สิ่งสำคัญคือหากยังไม่ทานทันทีห้ามนำไปแช่ช่องแข็งเด็ดขาดเพราะจะทำให้กลายเป็นน้ำแข็งทำให้เสียรสชาติ แนะนำให้แช่ในช่องเย็นธรรมดาสามารถเก็บได้นาน 3 – 4 วัน นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูเด็ดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น เส้นหมี่กระเฉด โกยซีหมี่โบราณ ข้าวผัดปู ข้าวขาหมูโบราณแต้จิ๋ว และอาหารตามสั่งอื่น ๆ
ร้านตั้งอยู่ที่ ซ.วานิช 2 ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เปิดตั้งแต่เวลา 6.00 – 18.00 น. สามารถโทรสั่งจองได้ที่ 02-233-5450, 08-1836-9194
แนะนำแหล่งกินในตำนานห้ามพลาดอย่าง “ขาหมูแช่เย็น ตือคาตั่ง” ขอแนะนำแหล่งเที่ยวรอบกรุงที่แม้คนกรุงเทพเองยังมาเยือนไม่ครบ ไล่ที่เที่ยวครบตามนี้ถือว่าสุดยอด ที่แรกคือ ตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ มีสถานที่ให้แวะเที่ยวหลายจุดไม่ว่าจะเป็น ท่าเรื่อที่สวยที่สุดในแม่น้ำเจ้าพระยา หรือเดินชมภาพ Street Art กราฟฟิตี้ ที่มีให้เห็นตามกำแพงรอบชุมชน อย่าลืมแวะถ่ายรูปกับร้านขายอะไหล่เก่าหรือที่รู้จักกันในชื่อเซียงกง เก็บไว้เป็นที่ระลึก
หนึ่งเสน่ห์ของการเที่ยวรอบกรุงคือทัวร์วัดงามสักการะขอพรทำบุญ วัดแรกที่แนะนำคือ“วัดไตรมิตร หรือ วัดสามจีน” จุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ คือ พุทธสถาปัตกรรมอันทรงคุณค่า “พระมหามณฑป” ซึ่งภายใน แบ่งออกเป็นชั้น มีศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช, นิทรรศการพระพุทธรูปทองคำ, พระพุทธรูปทองคำสุโขทัยไตรมิตร และยังมี แกลเลอรี่ภาพถ่ายและวีดิทัศน์จัดแสดงเรื่องพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ในรัชกาลปัจจุบันต่อชุมชนเยาวราช
อีกหนึ่งวัดที่สายบุญห้ามพลาดคือ “วัดพระศรีรัตนศาสดาราม” หรือ วัดพระแก้ว วัดสำคัญที่มีความงดงาม เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับพระบรมมหาราชวังและกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในมีพระอุโบสถที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ภายในวัดยังมี ยักษ์วัดพระแก้ว พระศรีรัตนเจดีย์สีทอง ปราสาทพระเทพบิดร พระอัษฏามหาเจดีย์ และจิตรกรรมฝาผนังวัดพระแก้ว ที่ตั้งเป็นกลุ่มเรียงรายกันให้ชมด้วย
ไม่ไกลกันนัก “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร” หรือ วัดโพธิ์ วัดคู่บ้านคู่เมือง เป็นวัดประจำรัชกาลในรัชกาลที่ 1 ภายใน ยังมี “พระพุทธไสยาสน์” (พระนอนวัดโพธิ์) องค์ใหญ่ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ฝีมือช่างสิบหมู่ของหลวง ก่ออิฐถือปูนปิดทองทั้งองค์ ยาว 46 เมตร สูง 15 เมตร และยังมียักษ์วัดโพธิ์ลือชื่อที่ทุกคนรู้จักกันดี นอกจากอาคาร พระวิหาร พระเจดีย์ต่าง ๆ แล้ว วัดโพธิ์ยังมีรูปปั้นฤๅษีดัดตน ให้ศึกษาและเรียนรู้เพื่อบำบัดโรคอีกด้วย
“วัดอรุณราชวราราม” อีกหนึ่งศาสนสถานเอกลักษณ์ประจำกรุงรัตนโกสินทร์ ที่งดงามด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมงานศิลป์ ควรค่าแก่ความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน ตั้งเด่นเป็นสง่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา กลายเป็นสัญลักษณ์ความสวยงามประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก
หากต้องการเรียนรู้เรื่องราวของกรุงรัตนโกสินทร์แบบตื่นตาตื่นใจ แนะนำว่าต้องมาที่ “อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์” ภายในจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับรัตนโกสินทร์ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ทั้งสื่อจัดแสดง หุ่นจำลอง การนำสื่อผสมเสมือนจริง 4 มิติ สื่อมัลติทัช มัลติมีเดียแอนิเมชัน ในลักษณะอินเตอร์เอคทีฟ เซล์ฟ เลิร์นนิ่ง (Interactive Self-learning) ให้ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์กันแบบเต็มอิ่ม
อีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา มีที่เที่ยวแนว Heritage อีกแห่งที่น่าสนใจ “ล้ง 1919” กราบสักการะเจ้าแม่หม่าโจ้ว ที่นี่เกิดจากการพลิกฟื้นท่าเรือ ฮวย จุ่ง ล้ง ท่าเรือกลไฟริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีบทบาทสำคัญของสยาม ในสมัยรัชกาลที่ 4 ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าใจถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทย – จีน
มากรุงทั้งทีต้องไปเดิน “มหานคร สกายวอล์ค” จุดชมวิวบนดาดฟ้าที่สูงที่สุดในประเทศไทย จุดชมวิวท้าทายความกล้าผ่านวิวบนระเบียงพื้นกระจกใส สามารถมองเห็นวิวเมืองด้านล่างอย่างชัดเจนจนรู้สึกเหมือนลอยอยู่บนอากาศ ก่อนขึ้นสู่จุดชมวิวด้านบนจะพบกับลิฟต์มัลติมีเดียที่เร็วที่สุดในประเทศไทย ชมภาพความสวยงามเหนือกรุงเทพมหานครแบบพาโนรามา 360 องศา พุ่งขึ้นสู่จุดชมวิวเพียงแค่ไม่กี่วินาที
หากใครที่อยากพาครอบครัวมาเที่ยวแบบใกล้ชิดสัมผัสบรรยากาศใต้ท้องทะเล ต้องแวะไปที่ “ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชี่ยน เวิลด์” พบกับสัตว์น้ำกว่า 30,000 ตัวจาก 400 สายพันธุ์ทั่วโลก ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใจกลางเมืองกรุงเทพ ที่ที่คุณจะได้ใช้เวลากับครอบครัวได้อย่างไม่มีเบื่อ และอีกหนึ่งจุดที่ชวนไปเที่ยวแถมได้ความรู้ คือ “สวนงู สถานเสาวภา สภากาชาดไทย” ที่แน่นอนว่ามาที่นี่จะได้ชมงูมากมายกลายชนิด และเก็บเกี่ยวความรู้มากมาย
เช็ค 10 จุดเช็คอินเรียบร้อย มีที่ไหนที่ยังไม่เคยไปบ้าง ต้องล็อกคิวมาเยือนให้ได้ เชื่อได้ว่าคนส่วนใหญ่ที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองกรุงมานานอาจจะก็ยังไม่เคยไปสถานที่เหล่านี้ ช่วงโควิดซา ผู้ป่วยลดลง สถานการณ์ดีขึ้นอย่าพลาดแพลนเที่ยวรอบกรุงให้ครบตามที่บอก รับรองว่าไม่เสียทีที่เป็นคนกรุงเทพ และที่สำคัญพลาดไม่ได้กับเมนูเด็ด “ขาหมูแช่เย็น ตือคาตั่ง” นะจ้ะ

ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย iChiangMaiPR.com
หมวดหมู่: ที่กิน
คำค้น: , ,