ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ร่วมประชุมติดตามการดำเนินงานศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมประชุมติดตามการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และรายงานปัญหา อุปสรรคในการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาฯ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมประชุมหารือการติดตามการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครั้งที่ 6/2564 (ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และศูนย์สาขา) ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ระบบออนไลน์ (Microsoft Teams) โดยมีนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานการประชุม เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาฯ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ระบบออนไลน์ แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปัจจุบันยังคงมีความรุนแรง ทำให้การดำเนินงานของศูนย์ศึกษาฯ รวมถึงการติดตามการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาฯ ต้องเปลี่ยนรูปแบบไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส และศูนย์สาขา ประกอบด้วย โครงการสวนยางพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ จังหวัดนราธิวาส, โครงการพัฒนาหมู่บ้านปีแนมูดอ จังหวัดนราธิวาส, โครงการหมู่บ้านปศุสัตว์เกษตรมูโนะ จังหวัดนราธิวาส, บ้านโคกอิฐโคกใน บ้านยูโย จังหวัดนราธิวาส และโครงการส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานผลการดำเนินงานตามแนวทางการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาฯ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และสอดรับกับชีวิตวิถีใหม่รวมถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน

ในการนี้ ได้มีการสรุปข้อสั่งการขององคมนตรี ทั้ง 3 ท่าน ในคราวประชุมหารือติดตามการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาฯ และศูนย์สาขาในแต่ละครั้งที่ผ่านมา โดยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีข้อสั่งการให้มีการช่วยสนับสนุนและส่งเสริมปลูกมะขามป้อม ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ เนื่องจากเป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกได้ยากและมีราคา หากมีการประสานกับผู้ผลิตสมุนไพรได้ จะทำให้ได้ราคาที่ดีขึ้น พร้อมกันนี้ ได้มีการติดตามความก้าวหน้าโครงการถนนเชื่อม 4 ตำบล ในอำเภออมก๋อย และติดตามการเติบโตของเห็ดเผาะจากการเผาป่าและการปล่อยปลาในพื้นที่ห้วยลาน โดยมีข้อคิดเห็นว่าในพื้นที่ห้วยลาน ไม่ควรปล่อยปลาพันธุ์ต่างประเทศ

ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย iChiangMaiPR.com
หมวดหมู่: การเกษตร, สังคม