ห้องอาหารนอร์ท บาย โฟร์ซีซั่นส์ พร้อมเปิดให้บริการอีกครั้ง ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้

ห้องอาหารนอร์ท บาย โฟร์ซีซั่นส์ พร้อมเปิดให้บริการอีกครั้ง ในวันที่ 18 ตุลาคมนี้

เชฟเลียม นีลอน หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ จุดกองฟืนให้ลุกโชน เพื่อปรุงเมนูต่างๆภายใต้คอนเซ็ปท์ฟาร์มทูเทเบิ้ลและเนื้อสเต็กเกรดพรีเมี่ยมที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี

“วัตถุดิบที่เราใช้มากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์นั้นมาจากฟาร์มท้องถิ่นในภาคเหนือของไทย” กล่าวโดย เชฟเลียม นีลอน หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ “ผักหลากหลายชนิดที่เราใช้รวมทั้งมะเขือเทศและพืชสมุนไพรต่างๆ มาจากฟาร์มที่ปลูกแบบออร์แกนิกซึ่งอยู่ห่างจากรีสอร์ทของเราเพียงไม่กี่นาที เราร่วมมือกับเกษตรกรและผู้ผลิตในท้องถิ่นเพื่อนำเอาเนื้อวัวไทยวากิวมาใช้ ทั้งยังคัดสรรค์เนื้อเกรดพรีเมี่ยมจากฟาร์มวัวในประเทศออสเตรเลียที่มีแนวปฏิบัติเพื่อความยั่งยืน”

ที่ห้องอาหารนอร์ท บาย โฟร์ซีซั่นส์ เราให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืนและการทำงานร่วมกับเกษตรกรผู้ผลิตในท้องถิ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นในการออกแบบแต่ละเมนูปิ้งย่างที่เลือกสรรมาเป็นอย่างดีจากทั่วทุกมุมโลก “ผมตื่นเต้นที่จะได้มีโอกาสเปิดประตูต้อนรับแขกทุกท่านอีกครั้งสู่ห้องอาหารนอร์ท ห้องอาหารที่เต็มไปด้วยบรรยากาศและการตกแต่งที่สวยงามรวมทั้งนิยามใหม่และคอนเซ็ปต์ที่คลาสสิคของห้องอาหาร เพราะ นอร์ท คือการนำเสนอเมนูอาหารผ่านกรรมวิธีการปรุงด้วยไฟฟืน ซึ่งเคารพรสชาติของวัตถุดิบและยกระดับความมีมิติในแต่ละเมนูด้วยทักษะและเทคนิคการปรุงอาหารของทีมพ่อครัวที่เชี่ยวชาญ” กล่าวโดย มร. แอนโทนี กิล, ผู้จัดการใหญ่ประจำโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ และโฟร์ซีซั่นส์ เต้นท์แคมป์ สามเหลี่ยมทองคำ “ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดและร่วมสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่น ครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวของการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนผ่านห้องอาหารของเรา”

เตาไฟมาสเตอร์พีซ

พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำด้วยการเปิดตัวห้องอาหารนอร์ท บาย โฟร์ซีซั่นส์อีกครั้ง ซึ่งจะพาทุกท่านย้อนรอยวีถีและกรรมวิธีการทำอาหารแบบดั้งเดิมด้วยการใช้ไฟฟืน โดยได้รับการออกแบบจากสถาปนิกและนักออกแบบภูมิทัศน์ชื่อดัง มร. บิลล์ เบนสเลย์ ซึ่งได้รับการขนานนามและมีชื่อเสียงในระดับสากลว่าเป็นราชาแห่งการออกแบบรีสอร์ทสุดหรูทั่วโลก ได้ทำการออกแบบเตาไฟกลางห้องอาหารได้อย่างงดงามราวกับงานศิลปะมาสเตอร์พีซ “กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของเมนูของเรานั้นปรุงและทำสดจากเตานี้” กล่าวโดยเชฟเลียม นีลอน, หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ “เมนูของเราคือการนำเอากรรมวิธีการปรุงอาหารจากการก่อฟืนจุดไฟแบบดั้งเดิมผสมผสานกับการใช้วัตถุดิบชั้นเลิศ ประกอบกับส่วนผสมที่สดใหม่พร้อมด้วยเทคนิคและกรรมวิธีที่แตกต่างออกไป เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับเกษตรกรท้องถิ่น เพราะเราให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบในแต่ละฤดู” โดยแต่ละเมนูนั้นสามารถเพิ่มความน่าสนใจให้กับรสชาติอาหารด้วยการรับประทานคู่กับซิกเนเจอร์ซอสที่หมักเละปรุงขึ้นเองโดยทีมพ่อครัว

ไฮไลท์ของการปรุงอาหาร

สิ่งสำคัญคือการสร้างความสมดุลให้แต่ละเมนู ซึ่งเน้นองค์ประกอบด้านโภชนาการและยังมีเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ อาทิเมนูเซวิเช่และสลัดมากมายให้เลือกสรร “ผมขอแนะนำสปาเก็ตตี้ควินัวโรยด้วยผงสาหร่ายและนิวทริชั่นแนลยีสต์ซึ่งเข้ากันได้ดีกับพิซซ่าสุดคลาสสิคที่อบด้วยเตาถ่าน ทั้งยังมีแซนวิชเนื้อพาสทรามีและสเต็กเนื้อสตลิปลอยน์ที่สะท้อนความโดดเด่นและคอนเซ็ปต์ห้องอาหารได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีเมนูอาหารย่างที่ได้แรงบันดาลใจมาจากอาหารไทยนั่นก็คือสะเต๊ะเนื้อวากิวที่พร้อมถ่ายทอดรสชาติอาหารท้องถิ่นให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์รูปแบบใหม่

ก่อฟืนจุดไฟ ฟื้นคืนการปรุงอาหารแบบดั้งเดิม

ไม่ว่าจะเป็นการอบ การเผาให้เกรียมหรือการย่างรมควัน แต่ละเทคนิคสามารถสร้างความมหัศจรรย์ให้กับมื้อพิเศษของคุณ “เตาไฟกลางห้องอาหารของเราสามารถสร้างรสชาติที่มีเอกลักษณ์ให้แต่ละเมนูด้วยเสน่ห์ของไฟและฟืน” เชฟเลียมยิ้ม พร้อมการคัดสรรค์เนื้อเกรดพรีเมี่ยมและคุณภาพดีที่สุดในท้องตลาดมาเป็นวัตถุดิบในห้องอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อซี่โครงแกะจากประเทศออสเตรเลีย ซี่โครงหมูบาบีคิวและสเต็กเนื้อเกรดพรีเมี่ยมมากมายอาทิเช่น เนื้อริบอายวากิวออสเตรเลียและแฮงเกอร์สเต็ก อีกหนึ่งความพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของห้องอาหารคือซอสโฮมเมดทั้งสามตัว ซอสศรีรา-ชาร์, ซอสเบคอนมัสตาร์ด และ ซอสมะเขือเทศเพลเอล ที่จะเพิ่มความอร่อยให้กับเมนูสเต็ก” กล่าวโดยเชฟเลียม

ค๊อกเทลและขนมหวาน

เติมเต็มประสบการณ์การรับประทานอาหารด้วยการดื่มด่ำไปกับรสชาติที่แปลกใหม่ไปกับเมนูค็อกเทลที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นโรสแมรีรมควันหรือการใช้กลิ่นของเปลือกเชอร์รี่ แม้แต่การใช้สัปปะรดภูแลย่างรมควันเพื่อสอดแทรกกลิ่นอายของรสชาติผลไม้เขตร้อนในเครื่องดื่ม “ลองสั่งบิ๊กเชอร์รี่หรือไวด์คิทเช่น ทั้งสองเมนูนี้มีตะไคร้เป็นส่วนประกอบซึ่งเหมาะกับการเริ่มต้นมื้ออาหารสุดพิเศษของคุณ” เขายิ้ม

เชฟญาณิศา เวียงนนท์ หัวหน้าพ่อครัวขนมอบและขนมหวาน ได้รังสรรค์เมนูของหวานที่จะเติมเต็มประสบการณ์ในมื้อพิเศษของคุณ ด้วยหลากหลายเมนูอาหารหวานที่ผสมผสานเทคนิคการรมควันและการจุดไฟไว้ให้คุณได้เพลิดเพลิน พร้อมนำรสชาติแบบท้องถิ่นเข้ามาเป็นส่วนประกอบในการสร้างสรรค์ขนมหวานคลาสสิกของเธออาทิ เช่น “เอ็กโซติกบาบา” และสับปะรดภูแลที่มีชื่อเสียงของภาคเหนือ “และอีกหนึ่งเมนูที่ฉันอยากจะแนะนำให้ลองทานนั่นก็คือ “ช็อกโกแลตในกองไฟ” รับรองเลยว่าคุณจะไม่มีวันผิดหวัง” เธอยิ้ม

การให้คุณค่าและความสำคัญกับช่างฝีมือท้องถิ่น

ด้วยการมุ่งเน้นและสนับสนุนความยั่งยืน ห้องอาหารของเราจึงดำเนินตามคำมั่นสัญญาในแนวทางดังกล่าว “ประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดเชียงใหม่มีชื่อเสียงมายาวนานในด้านงานฝีมือ เราจึงหยิบเอาเอกลักษณ์ที่มีคุณค่าเหล่านี้มาเป็นองค์ประกอบที่ห้องอาหารนอร์ท” กล่าวโดย คุณจตุรงค์ ชัยเลิศ ผู้จัดการห้องอาหาร “ไม่ว่าจะเป็นมีดสเต็ก ไปจนถึงจานชามที่ใช้ในห้องอาหารทุกอย่างล้วนเป็นงานฝีมือทั้งสิ้น”

ด้วยบรรยากาศที่เปิดโล่งและทัศนียภาพที่งดงามโอบล้อมไปด้วยทุ่งนาขั้นบันไดอันเขียวขจี สระบัวและทิวเขาสุดตระการตาที่อยู่ไกลออกไป ทำให้ห้องอาหารนอร์ทเปรียบเสมือนดั่งเวทีละครที่นำแสดงโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญพร้อมเมนูต่างๆที่พร้อมสร้างความประทับใจให้กับคุณ

กลับมาสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำที่นอร์ท บายโฟร์ซีซั่นส์กันอีกครั้ง พร้อมเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 053 298 181 หรือสนทนาผ่านช่องทาง Four Seasons Mobile App หรือจองโต๊ะออนไลน์ผ่าน Open Table

ข่าวชิ้นนี้เผยแพร่โดย iChiangMaiPR.com
หมวดหมู่: ที่กิน
คำค้น: , , ,